ภาคหนึ่ง
พระธรรมเก่า
********************
พระผู้เป็นเจ้าทรงเนรมิตเทวดา
1. แรกเริ่มเดิมที , ไม่มี ดวงเดือน ตะวัน โลก หรืออะไรทั้งสิ้น , มีแต่พระผู้เป็นเจ้าเท่านั้น , เพราะ พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นต้นและปลายของสิ่งทั้งปวง
2. อยู่มา พระผู้เป็นเจ้า ทรงเนรมิตสวรรค์ให้เป็นที่อยู่ของเทวดาทั้งหลาย เทวดาเป็นจิต ไม่มีร่างกาย พระผู้เป็นเจ้าทรงสร้างเทวดา เพื่อรู้จัก พระองค์ รักพระองค์ รับใช้พระองค์ และอยู่เป็นสุขกับพระองค์ในสวรรค์
3. ในระหว่างพวกเทวดาเหล่านี้ มีพวกหนึ่งได้อกตัญญูหลู่คุณ ไม่ยอมขึ้นต่อพระผู้เป็นเจ้า , เขาคิดขบถต่อพระองค์ , หัวหน้า เทวดาพวกนี้ชื่อ ลูซีแฟร์ แต่เทวดาอีกพวกหนึ่ง มีหัวหน้าชื่อมีคาเอล ผู้มีความจงรักภักดีต่อพระผู้เป็นเจ้า จึงได้ทำการต่อสู้กับเทวดาที่ทรยศต่อพระองค์
4. เทวดาที่ทรยศ ต่อพระผู้เป็นเจ้า ได้หนีจากพระองค์คนนั้นหนีจากพระองค์ แล้วจึงตกนรกอเวจีแห่งความทุกข์ทรมานและกลายเป็นปีศาจ ส่วนเทวดาที่ซื่อสัตย์ต่อพระองค์ พระองค์ให้อยู่ในสวรรค์ เสวยความบรมสุขตลอดนิตย์นิรันดร์
พระผู้เป็นเจ้าทรงเนรมิตโลก
1. อยู่มาพระผู้เป็นเจ้าทรงบันดาลให้มีฟ้า และแผ่นดิน บนฟ้า พระองค์ให้มีดวงดาวน้อยใหญ่ทั้งหลายนับแสน ๆ ล้าน ๆ ดวง บางดวงใหญ่ว่าโลกเรามากและอยู่ห่างไกลจากโลก
2. ส่วนแผ่นดิน พระองค์ก็ทรงบันดาลให้มีน้ำ ดิน ลม ไฟ ให้หมุนรอบตัว เพื่อให้ทุกส่วนได้รับความอบอุ่น และความเย็น แล้วทรงเนรมิตสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ เช่น ต้นไม้ ต้นหญ้า แ ละสัตว์บก สัตว์น้ำทุกชนิด
3. ในบรรดาสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ ไม่มีสิ่งใดเลยที่มีสติปัญญารู้บาปบุญคุณโทษ จึงไม่สามารถดีขึ้นหรือเลวลงได้ มีแต่สัญชาติญาณ คือ ความรู้สึกสำหรับอาหาร ป้องกันตัว และสืบตระกูลเท่านั้น
4. ต่อมาพระผู้เป็นเจ้าทรงเนรมิต มนุษย์ ชายและหญิงคู่แรก คือ อาดัม และเอวา มีร่างกายเช่นเดียวกับสัตว์ สำหรับดำรงชีวิตในโลกนี้ชั่วคราว แต่มีจิตเช่นเดียวกับเทวดา สำหรับรู้จัก รัก แ ละปรนนิบัติพระผู้เป็นเจ้าในแผ่นดินนี้ก่อน ครั้นแล้วจะได้เสวยสุขกับพระผู้เป็นเจ้าในสวรรค์ตลอดนิรันดร
ในวันที่เจ็ด พระผู้เป็นเจ้า ทรงหยุดเนรมิต และทรงสั่งให้มนุษย์หยุดทำงานทุก ๆ เจ็ดวัน เรียกว่า วันพระ
พระผู้เป็นเจ้าทรงทดลอง อาดัมและเอวา
1. พระผู้เป็นเจ้าทรงโปรดประทานให้อาดัมและเอวาอยู่ในสวนแสนสุขสนุกสบายแห่งหนึ่ง พระผู้เป็นเจ้าทรงดำริที่จะทดลองความซื่อสัตย์ของอาดัมและเอวาจึงตรัสแก่เขาว่า เจ้าจะกินผลไม้ในสวนนี้ได้จากทุกต้น เว้นแต่ต้นที่อยู่กลางสวน , อย่ากินเลยเป็นอันขาด ; ถ้าขืนกินเมื่อไร เจ้าจะต้องตาย
2. อยู่มาวันหนึ่ง ปีศาจ เที่ยงรังควาญโลก เพราะเห็นมนุษย์คู่แรกมีความสุขสบาย และจะไปเอาที่ของมันในสวรรค์ จึงอิจฉาตาร้อน ตั้งใจจะหลอกลวงให้ตกอยู่ในบาป เพื่อจะได้เป็นเพื่อนร่วมทุกข์ทรมานกับมันตลอดนิรันดรในนรก
วันหนึ่ง มันเห็นเอวาอยู่คนเดียวใกล้ต้นไม้ที่มีพระผู้เป็นเจ้าทรงห้าม จึงเข้าสิงอยู่ในงูตัวหนึ่ง เลื้อยเข้าไปใกล้เอวา แล้วถามว่า
3. ทำไม พระเจ้าจึงทรงห้ามเจ้ามิให้กินผลไม้จากต้นไม้เหล่านี้เหล่า?
เอวาตอบว่า พระไม่ได้ห้ามกินผลไม้ จากทุก ๆ ต้น ห้ามเฉพาะต้นที่อยู่กลางสวนเท่านั้น! ปีศาจถามอีกว่า ทำไมพระเจ้าจึงห้ามเล่า? ตอบว่า : ถ้าใครขืนกินจะต้องตาย ปีศาจ หัวเราะ ค้านว่า : ไม่จริงเลย แต่ว่าถ้าใครกินก็จะกลับเป็นเหมือนพระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นเจ้าจึงทรงห้ามิให้กิน
4. เอวา แลดูผลไม้เห็นงามน่ากินเก็บมากิน แล้วแบ่งให้อาดัมกินด้วย ครั้นสองสามีภรรยา เชื่อปีศาจ และฝ่าฝืนคำสั่งของพระผู้เป็นเจ้า ( ที่เรียกว่า บาปกำเนิด ) เช่นนั้นแล้วโดยตั้งใจเพราะอยากจะเป็นใหญ่เท่าพระเป็นเจ้า และโค่นอำนาจของพระองค์ ก็เกิดรู้สึกอายตัวเอง จึงหาใบไม้มาปิดกาย แล้วซ่อนตัวอยู่ในสวน
พระผู้เป็นเจ้าทรงลงโทษ อาดัมและเอวา
1. อาดัมและเอวา ซ่อนตัวอยู่ในสวน พระเจ้าทรงตามไปถึงที่ซ๋อนและตรัสถามว่า : เราเรียกทำไมไม่ขานตอบ ครั้นได้ยินเสียงพระผู้เป็นเจ้าตรัสถามดังนั้น อาดัมจึงตอบว่า ข้าพเจ้าอาจ จึงมาซ่อนตัวอยู่ที่นี่ พระผู้เป็นเจ้าตรัสถามว่า และใครสอนเจ้าให้รู้จักอาย เจ้าอาจเพราะเจ้าได้กินผลไม้ที่เราห้ามไม่ให้กินน่ะซี อาดัม แทนที่จะยอมรับผิดแลขอโทษ กลับแก่ตัวว่า เอวาเป็นผู้ล่อลวงให้ข้าพเจ้ากิน พระผู้เป็นเจ้าตรัสถามว่า ทำไมเจ้าจึงทำเช่นนั้น เอวาก็กลับแก้ตัวเช่นเดียวกันว่า งูมันลวงดิฉัน ดิฉันจึงกิน
2. พระผู้เป็นเจ้า ทรงสาปแช่งงูคือปีศาจว่า เมื่อเจ้าลวงผู้หญิงเข้าเช่นนี้ สักวันหนึ่ง สตรีคนหนึ่งผู้มีเชื้อสายจะเหยียบหัวใจให้บี้แบน คือ หมายความว่า เมื่อถึงเวลาที่พระมหาไถ่เสด็จมาไถ่บาปมนุษย์ทั้งหลาย ให้พ้นอำนาจของปีศาจนั้น พระองค์ทรงเลือกแม่พระเป็นพระมารดา และแม่พระเป็นผู้เหยียบปีศาจไว้ใต้ฝ่าเท้าตามที่พระองค์ทรงสาปไว้
3. แล้วพระผู้เป็นเจ้าตรัสแก่เอวาว่า ฝ่ายเจ้าเจ้าจะต้องลำบากเป็นอันมาก เพราะลูกและเจ้าจะต้องอยู่ใต้อำนาจของสามีเจ้า
4. แล้วพระองค์ตรัสแก่อาดัมว่า เจ้าก็จะต้องอาบเหงื่อต่างน้ำ หาเลี้ยงตัวและครอบครัวจนวันตาย เจ้าเกิดมาจากดิน เจ้าก็จะกลับกลายเป็นดิน
ครั้นแล้ว อาดัมและเอวาจึงถูกไล่อกจากสวนอุทยานไปทำมาหากินด้วยความเหน็ดเหนื่อยลำบาก และในที่สุดจะต้องเจ็บไข้และตาย นี่แหละหนอ ผลแห่งความทำบาป
คาอิน และอาแบล
1. อาดัมกับเอวามีบุตรด้วยกันสองคน คนพี่ชื่อ คาอิน คนน้องชื่อ อาแบล คาอินเป็นชาวนา อาแบล เป็นคนเลี้ยงสัตว์ คาอิน เป็นคนเลว อาแบลเป็นคนดี
2. วันหนึ่ง ต่างคนต่างถวายเครื่องบูชาแก่พระผู้เป็นเจ้า คาอินถวายผักและผลไม้ และอาแบลถวายลูกแกะ ฝ่ายคาอินเห็นว่า พระผู้เป็นเจ้าทรงพอพระทัยในของถวายของอาแบล เพราะเป็นคนดี และไม่ทรงพอพระทัยในของ ๆ ตนก็โกรธ พระผู้เป็นเจ้าตรัสแก่คาอินว่า :
เจ้าโกรธทำไมเล่า ? ถ้าเป็นเจ้าคนดีอย่างน้องของเจ้า เราจะให้บำเหน็จเจ้าเหมือนกัน ถ้าเจ้าทำดีก็จะได้ดี ถ้าเจ้าทำชั่วก็จะได้ชั่ว
3. แต่คาอินกลับอิจฉาแบลทวีขึ้น วันหนึ่งชวนน้องไปเที่ยว พอพ้นหูพ้นตาบิดามารดา ก็ลอบฆ่าอาแบลเสีย พระผู้เป็นเจ้า ตรัสถามคาอินว่า คาอิน น้องอยู่ที่ไหน? แต่คาอินไม่ยอมรับผิด กลับตอบไถลไปว่า ไม่ทราบเพราะข้าพเจ้าไม่ใช่พี่เลี้ยงของมัน พระผู้เป็นเจ้าจึงลงโทษคาอินให้เที่ยวพเนจรไปตามป่าโดยหาความสุขสงบมิได้ตลอดชีวิต
4. เมื่อคาอินเป็นคนพาลสันดานชั่วเช่นนี้ จึงหาความสุขความเจริญมิได้ คือ ถูกสาปให้ต้องระทมทุกข์ต่าง ๆ ออกท่องเที่ยวซัดเซพเนจรไปจนวันตาย คนชั่วร้าย ย่อมปราศจากความสุข และความอิจฉาเป็นบ่อเกิดแห่งความชั่วร้ายหลายประการ